สำหรับเกม ลอนดอน ดาร์บี้ แมตช์ ในค่ำคืนวันนี้ เป็นอีกเกมที่เริ่มกลับมาน่าสนใจ หลังจากที่ ‘สิงห์บลูส์’ ได้ฟอร์มรูดลงไป ตั้งแต่ที่ได้เจ้าของทีมคนใหม่อย่าง ท็อดด์ โบลีห์ เข้ามาบริหารสโมสร ซึ่งในตอนนี้ พวกเขาได้กลับมาแล้วครับ จากการที่ชนะใน พรีเมียร์ลีก 2 นัดติดเป็นหนแรกในฤดูกาลนี้

เรียกได้ว่าลูกทีมของ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ เรียกฟอร์มกลับมาได้ทันเวลาพอดี แม้ว่าจะมีช่วงเบรกทีมชาติมาคั่นซะก่อน แต่พวกเขาก็อาจจะยังรักษาโมเมนตั้มนี้เอาไว้ก็ได้ เพราะนักเตะหลายๆ รายก็ไปโชว์ฟอร์มหรูให้กับบ้านเกิดของตัวเองมาได้

ทางด้านของ มิเกล อาร์เตต้า ก็ทำได้อย่างยอดเยี่ยมมาต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อฤดูกาลก่อน โดยที่ ‘ปืนใหญ่’ ยังคงไม่แพ้ใครเลยใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ด้วยผลงานชนะ 6 เสมอ 2 ทำให้รั้งเป็นรองจ่าฝูงอย่าง ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ด้วยผลต่างประตูได้เสียเท่านั้น

สถิติที่น่าสนใจสำหรับทั้ง 2 ทีมคือ ‘สิงโตน้ำเงินคราม’ พ่ายแพ้ให้กับ ‘กันเนอร์ส’ ไปแล้วถึง 5 เกมจากการเจอกัน 6 ครั้งหลังสุดในลีก ซึ่งเป็นจำนวนที่เท่ากับพวกเขาลงเล่นด้วยกัน 25 เกมก่อนหน้านี้ และนี่อาจเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งในยุคสมัยของแต่ละทีมได้เลย

นอกจากนี้ อาร์เซนอล ชุดนี้ยังคงเดินหน้าทำสถิติไม่แพ้ใครในเกม ลอนดอน ดาร์บี้ มาแล้วถึง 15 เกมด้วยกัน ซึ่งยาวนานที่สุดเป็นอันดับ 3 รองจาก เชลซี ที่ทำไว้ 20 เกมในระหว่างปี 2004-2006 และ 35 เกมที่พวกเขาเคยทำเอาไว้ในยุคของ อาร์แซน เวงเกอร์ ในระหว่างปี 2001-2005

อย่างที่ได้เกริ่นไว้ข้างต้นอ่ะครับ ว่าฟอร์มการเล่นของทีมฝั่งสีน้ำเงินดูเหมือนจะกลับมาก็จริง ด้วยการที่ชนะมา 2 นัดติดต่อกัน แต่ก็เป็นการได้ออกไปเล่นเป็นทีมเยือนทั้ง 2 เกมเลย โดยที่การลงเล่นใน สแตมฟอร์ด บริดจ์ ฤดูกาลนี้ พวกเขาเก็บชัยชนะมาได้เพียงแค่นัดเดียว และเป็นการชนะน้องใหม่อย่าง ลูตัน ทาวน์ ที่จมอยู่โซนตกชั้น ณ เวลานี้

ต่างจากทางฟากของฝั่งสีแดง ที่ลงเล่นเป็นทีมเยือนมาแล้ว 3 เกม เก็บชัยชนะได้ทั้งหมด และที่สำคัญคือพวกเขายังไม่เสียแม้แต่ประตูเดียวในการลงเล่นนอกบ้านเลย

เชลซี เองก็ต้องการที่จะแซง แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ค้างคากันอยู่ตรงกลางตารางมาหลายสัปดาห์แล้ว ทางด้านของ อาร์เซนอล ก็อยากที่จะขึ้นไปสูดอากาศบนยอดสูงสุดเหนือคู่ปรับสำคัญ สเปอร์ส ให้ได้ ซึ่งได้ทั้งในแง่ของกำลังใจและศักดิ์ศรีของทีมจากลอนดอนเหนือ

เชื่อว่าเกมนี้สนุก 5 ดาวสมกับการที่เป็นการเจอกันของทีมระดับยักษ์ใหญ่ของอังกฤษอยู่แล้ว ซึ่งฟอร์มการเล่นที่รักษาโมเมนตั้มมาได้ต่อเนื่องจากทีมของ อาร์เตต้า อาจจะทำให้ดูข่มกว่าทางเจ้าบ้านอยู่บ้าง แต่ โปเช็ตติโน่ เองก็คงอยากจะได้แต้มในบ้านของตัวเอง ก่อนที่เก้าอี้ของเจ้าตัวจะร้อนมากไปกว่านี้